ความรู้ไอทีดอทคอม

เคยสงสัยหรือไม่ว่า ไดรเวอร์ ( Driver) คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ทำไมเราจึงต้องลงไดรเวอร์ ( Driver) วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับคำว่า ไดรเวอร์ ( Driver) ไดรเวอร์ ( Driver) ถือว่าเป็นโปรแกรมหนึ่งที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อช่วยให้ระบบปฏิบัติการ ( OS) ต่างๆบนคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องนั้นสามารถใช้งานร่วมกับชิ้นส่วนต่างๆ ( Hardware) เช่น หน้าจอ เมาส์ เมนบอร์ด ฮาร์ดดิส หรือส่วนอื่นๆที่นำมาประกอบเป็นคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วพวกมันทำงานได้อย่างมี หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ไดรเวอร์ ( Driver) ก็เหมือนกับผู้ช่วยให้เราสามารถสั่งการให้ชิ้นส่วนต่างๆทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้นั่นเอง มันจะเชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์หากเรามีการติดตั้ง ไดรเวอร์ ( Driver) มีถูกต้องและเหมาะสมกับอุปกรณ์นั้นๆ คุณจะต้องตรวจสอบว่าภายในเครื่องเรามีไดรเวอร์ ( Driver) ที่ตรงกับความต้องการของระบบหรือไม่ เพราะหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับไดรเวอร์ ( Driver) อาจจะทำให้คำสั่งบางอย่างใช้การไม่ได้ อุปกรณ์ไม่ทำงาน หรือมากไปกว่านั้นอาจจะทำให้ระบบปฏิบัติการ ( OS) เปิดไม่ติดกันเลยทีเดียว ไดรเวอร์ ( Driver) ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับแผ่นติดตั้ง

ปัจจุบัน มีผู้คนให้ความสนใจเกี่ยวกับ งานตัดต่อวิดิโอ เพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่การที่เราจะสามารถตัดต่อวิดิโอให้ออกมามีคุณภาพ สวยงาม และดูโดด จำเป็นจะต้องอาศัยโปรแกรมตัดต่อโปรแกรมที่มีคุณภาพ วันนี้เราจึงอยากนแนะ 5 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอยอดนิยม 1. Adobe Premiere Pro สุดยอดโปรแกรมตัดต่อวิดิโอที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยความสามารถในการตัดต่อไม่ว่าคุณจะต้องการทำอะไร เพิ่ม ลด ย่อ ขาย หรือเอฟเฟคต่างๆที่มีหากกว่าหลายร้อยชนิด ปัจจุบันยังพัฒนาให้สามารถบันทึกลง Adobe Creative Cloud ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนสามารถดึงไฟล์มาตัดต่อได้ 2. Corel VideoStudio Pro โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดิโอที่ครอบคลุมทั้งการใช้งานเบื้องต้นหรือการตัดต่อแบบมืออาชีพเลยทีเดียว ด้วยการใช้งานที่ง่าย สะดวก เพียงลากวางก็สามารถสร้างสรรวิดิโอได้ตามต้องการ 3. Sony vegas pro 14 เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมตัดต่อวิดิโอที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ภายใต้บริษัทใหญ่อย่างโซนี่จึงได้ผลิตโปรแกรมที่สามารถตัดต่อได้ทั้งภาพและเสียงที่ให้คุณภาพสูง สามารถตัดต่อวิดิโอและสร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระ สามารถรวมไฟล์วีดีโอเข้าด้วยกัน

โปรแกรมที่อยู่คู่กับคอมพิวเตอร์นอกจากจะเป็นโปรแกรมเกี่ยวกับการทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์หรือเกมส์ต่างๆแล้ว สิ่งที่เราจะขาดไม่ได้เลยนั่นคือ โปรแกรมสแกนไวรัส ในปัจจุบันโปรแกรมสแกนไวรัสมีให้เลือกมากมายจากหลายค่ายหลายเวอร์ชั่น วันนี้เราจึงมาแนะนำ 5 อันดับที่เรียกได้ว่ายอดนิยมมากที่สุดทั่วโลก 1.Eset Multi-Device Security 2016 หากจะพูดถึงโปรแกรมสแกนไวรัสคงไม่มีใครไม่รู้จัก NOD32 หรือ Eset Multi-Device Security ด้วยความโดดเด่นของการใช้งานที่เรียกได้ว่างาย ติดตั้งง่าย สามารถอัพเดทได้ สามารถ ป้องกันการขโมยรหัสผ่านและบันทึกการพิมพ์บนคีย์บอร์ดได้ 2. Kaspersky internet Security   สุดยอด โปรแกรมสแกนไวรัส ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้มากมายทั่วโลก ในช่วง 2- 3 ปีที่ผ่านมา Kaspersky ได้รับความนิยมทั้งในออฟฟิสและสถานศิกษาต่างๆ มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ยอดเยี่ยม สามารถปรับแต่งระบบการทำงานได้ สามารถป้องกันไวรัสทั้งทางอินเตอร์เน็ต แฟลชไดรฟ์ หรือสปายเวอร์ต่างๆได้เป็นอย่างดี  3. Bitdefender internet Security โปรแกรมสแกนไวรัสเชื้อสายโรมาเนียนี้ มอบความปลอดภัยและประสิทธ

โปรแกรมแอนตี้ไวรัส NOD32 ถือว่าเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แอนตี้ไวรัส NOD32 นี้มีความสามารถในการป้องกันและกำจัดไวรัสที่ยอดเยี่ยม ใช้งานง่าย ติดตั้งง่าย มีการอัพเดทสม่ำเสมอ และสามารถปรับแต่งรูปแบบการป้องกันได้หลากหลาย แต่บางครั้งโปรแกรมนี้จะทำการลบไฟล์บางชนิดโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ฉะนั้นใครที่กำลังหา วิธีการปิดแอนตี้ไวรัส NOD32 เรามีวิธี่งายมาแนะนำกัน ขั้นตอนแรกให้คุณสังเกตุไอคอนของ NOD32 ที่หน้าจอ desktop หรือที่มุมขวาด้านล่างของหน้าจอได้ทั้งคู่ จากนั้นกดเพื่อให้ปรากฏหน้าจอขึ้นมา เราจะพบหน้าต่างๆของแอนตี้ไวรัส NOD32 จากนั้นให้คุณเลือกที่เมนู Setup ทางด้านซ้ายของหน้าจอ สังเกตุที่คำสั่งด้านขวาให้คุณเลือกคำสั่ง Temporarily disable Antivirus and antispyware protection คำสั่งนี้จะช่วยปิดการแสกน การป้องกัน และการค้นหาไวรัสหรือสปายด์แวร์ต่างๆ อีกหนึ่งวิธีคือการปิดโดยคลิ๊กขวาที่ไอคอนด้านล่างขวาจากนั้นเลือกคำสั่ง “ ปิดใช้งานการป้องกันชั่วคราว ” โปรแกรมจะถามคุณว่าต้องการปิดป้องกันไวรัสและสปายแวร์หรือไม่ ให้คุณกดยืนยันว่า ใช่ จากน

เคยไหมตื่นเช้ามาและต้องการเปิดคอมเพื่อทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ แล้วพบว่า คอมเปิดไม่ติด อาการคอมเปิดไม่ติดเป็นปัญหาใหญ่ที่คนใช้คอมไม่อยากจะพบเจอ คุณคงจะต้องเบื่อและอารมณ์เสียไปทั้งวันอย่างแน่นอน ฉะนั้นเราจึงมีวิธีแก้หากพบว่าคอมเปิดไม่ติดทำไงดี 1. ปัดฝุ่น ปัญหาหลักของผู้ใช้คอมคือไม่ค่อยจะดูแลรักษามันซักเท่าไรนัก ฝุ่นนี่แหละคือตัวการอันดับแกรที่ทำให้คอมเปิดไม่ติด ฉะนั้นหมั่นเปิดเคสและเป่าฝุนปัดฝุ่นให้ทั้งภายในภายนอกคอมสะอาดเสียบ้าง 2. เชค Ram เจ้าหน่วยความจำสำรองที่สุดแสนจะมีประโยชน์นี้มันช่างจะบอบบางและสร้างปัญหาให้เราอยู่เสมอ หากคอมเปิดไม่ติดให้คุณลองถอด Ram ออกและนำมาถูด้วยยางลบที่บริเวณขาสีทองๆของมันจากนั้นเสียบกลับเข้าที่เดิมให้แน่นสนิท อาจจะช่วยทำให้คอมกลับมาเปิดติดได้อีกครั้ง 3. ระบบจ่ายไฟมีปัญหา คอมเปิดไม่ติดอาจจะเกิดจากระบบจ่ายไฟที่ไม่เพียงพอหรือเปิดความเสียเกี่ยวกับเพาเวอร์ซัพพลายและสายไฟต่างๆ ฉะนั้นคุณสามารถตรวจเช็คเองได้ด้ววยการเปิดเคสและตรวจสอบว่าพัดลมเพาเวอร์ซัพพลายและปลั๊คต่างๆเสยแน่นดีแล้วหรือไม่ คอมเปิดไม่ติด มักจะเกิดได้จากไม

Windows 10 ได้สร้างประกฏการณ์เกี่ยวกับวงการไอทีอยู่ไม่น้อย แต่นอกจากเหล่าผู้ใช้จะพูดถึงความแปลกใหม่ของมันแล้ว กลับมีอีกกลุ่มที่มองเห็นถึงข้อเสียของ Windows 10 ซึ่งเราสามารถหาข้อมูลและจำแนกได้ดั่งต่อไปนี้ 1. มีการอัพเดทที่ยุ่งยากและค่อนข้างมีปัญหา ถือว่าเป็นข้อเสีย  Windows 10  ที่ทาง  Microsoft  ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ประกาศให้ผู้คนที่ใช้  Windows 8  สามารถอัพเดทเป็น  Windows 10  ได้ฟรีนั้นได้เกิดปัญหาทั้งระหว่างการอัพเดทไม่ว่าจะเป็น ปัญหาไดรฟ์เวอร์ของฮาร์ดบางรุ่น ซอฟแวร์ไม่สามารถติดตั้งได้ หรือความปลอดภัยจะน้อยลง เนื่องจากจำเป็นจะต้องเชื่อมต่อกับการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา 2.   ไม่มี  Windows Media Center  สำหรับใครที่เคยชินกับการดูหนัง ฟังเพลง ด้วยโปรแกรม  Windows Media   player  หรือทำการตัดต่อวิดิโอต่างๆด้วย  Movie maker  คุณจะไม่เห็นมันอีกใน  Windows 10  อีกแล้ว ฉะนั้นคุณหาโปรแกรมดูหนังฟังเพลงจากใน  store  หรือซื้อโปรแกรมมาติดตั้งด้วยตัวเอง 3. Interface พาให้สับสน เชื่อหรือไม่ว่าหน้าตาของแอพบางตัวหรือโปรแกรมบางโปรแกรมของ Windows 10 กลับออกแบบมาไ

Windows 8 ถูกเปิดตัวในช่วงปี 2555 ซึ่งได้พลิกโฉมระบบปฏิบัตการ Windows จากรุ่นก่อนๆไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งนอกจากความแปลกและความสวยงามที่เรามองเห็นเห็นได้จาก Windows 8 แล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึง ข้อดีของ Windows 8 เพื่อช่วยให้ผู้ใช้กล้าตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้กันมากยิ่งขึ้น 1. ความเร็วในการ Boot เข้า ต้องบอกเลยว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบรอเครื่องคอมพิวเตอร์เปิดนานๆ เนื่องจาก Windows 8 ได้ลดช่วงเวลาในการ boot สำหรับพร้อมทำงานอยู่ที่ 10 วินาทีเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าไวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว 2. Live Tile หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานหน้าจอคอมอยู่ตลอดเวลาและมักจะต้องอัพเดทงานหรือข่าวสารต่างๆอยู่เสมอ ขอบอกได้ว่า Windows 8 สามารถตอบโจทย์คุณด้วย Live Tile ที่จะทำให้คุณเห็นทุกการเคลื่อไหวไม่ว่าจะเป็น แจ้งเตือน email, แจ้งเตือน facebook, Twetter, ราคาหุ้น , สภาพอากาศ , รูปถ่ายในเครื่อง , Skydrive หรือแจ้งเตือน Note ต่างๆ แบบ Real-time เลยทีเดียว 3. ใช้งานได้ทั้ง PC, Tablet และสมาร์โฟน ต้องบอกว่าทาง Microsoft ออกมาให้ครอบคลุมการทำงานทั้งแบบ PC ทั่วไปหรือแบบ touch screen ที่สุดจะทัน

คอมพิวเตอร์และความเร็วถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ คงไม่มีใครอยากจะใช้คอมที่ประมวลผลช้า แสดงผลช้า หรือใช้งานไม่ทันใจเอาเสียเลย เมื่อคุณซื้อคอมมาในช่วงแรกๆนั้นจะให้ประสิทธิภาพที่ดีและมีความเร็วในการทำงานสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไปหากคุณรู้สึกว่าคอมทำงานช้าเสียเหลือเกิน วันนี้เรามี วิธีแก้ปัญหาเครื่องอืด หรือช้าที่ทำได้ง่ายๆ 1. ปิดโปรแกรมที่ไม่ใช้งานเสียบ้าง ใบบ้างครั้งเมื่อเราเปิดคอมใช้งานหลายๆโปรแกรมเราอาจจะลืมว่าโปรแกรมบางโปรแกรมมีการเปิดใช้งานอยู่ ส่วนนั้นเองเป็นส่วนที่ดึงให้ CPU แรม และฮาร์ดดิสทำงานหนักจนทำให้เกิด ปัญหาคอมอืด หรือช้าลง คุณสามารถปิดมันด้วยการกด Ctrl+Shift+Escape พร้อมกันจะปรากฏหน้าต่างของ Task Manage คุณสามารถสั่งปิด (End Task) โปรแกรมต่างๆที่ไม่ได้ใช้งานลงได้ 2. จัดการไฟล์ขยะ หากคอมของคุณใช้งานมานานมักจะมีไฟล์ขยะต่างๆที่คุณคาดไม่ถึง จนทำให้เกิดปัญหาเครื่องอืดหรือฮาร์ดดิสเต็มได้ คุณสามารถจัดการขยะเหล่านั้นด้วยการสั่ง Disk Cleanup และทำการ Defragment อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ฮาร์สดิสสะอาดและจัดระเบียบไฟล์ข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาคอมช้าและทำให้คอมเร็วขึ้น 3

คอมพิวเตอร์และความเร็วถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ คงไม่มีใครอยากจะใช้คอมที่ประมวลผลช้า แสดงผลช้า หรือใช้งานไม่ทันใจเอาเสียเลย เมื่อคุณซื้อคอมมาในช่วงแรกๆนั้นจะให้ประสิทธิภาพที่ดีและมีความเร็วในการทำงานสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไปหากคุณรู้สึกว่าคอมทำงานช้าเสียเหลือเกิน วันนี้เรามี วิธีแก้ปัญหาคอมช้า หรือ ทำให้คอมเร็วขึ้น ได้อย่างไม่น่าเชื่อ 1. ลดความสวยงามลง ให้คุณกดที่ Windows Key + X หรือคลิ๊กขวาที่ปุ่ม Start เลือก System จากนั้นให้เข้าหมวด “Advanced System Settings” และกด Settings ทางด้านซ้าย วิธีแก้ปัญหาคอมช้าหรือทำให้คอมเร็วขึ้นวิธีนี้คือทำให้กราฟฟิคแสดงผลหน้าต่างดูหรือ Visual Effects หายไป 2. ยกเลิกโปรแกรมที่ไม่ใช้งาน ให้คุณกด Ctrl+Shift+Escape พร้อมกันจะปรากฏหน้าต่างของ Task Manage ที่จะบอกรายละเอียอของโปรแกรมที่กำลังสั่งเปิดใช้งานไว้ คุณสามารถสั่งปิด (End Task) โปรแกรมต่างๆที่ไม่ได้ใช้งานลงได้เนื่องจากโปรแกรมแต่ละโปรแกรมจะดึงเอาพื้นที่ของ Ram และ CPU ไปใช้งานจนทำให้ คอมเราช้าลง 3. ปิด Start up บางตัว ทันทีที่คอมพิวเตอร์ของคุณ boot ขึ้นมา มันจะเกิดเพ

สัญญาณอันตรายที่จะช่วยบ่งบอกว่าตอนนี้คอมพิวเตอร์ของคุณกำลังมีปัญหานั้นมีด้วยกันหลายสัญญาณ แต่สัญญาณที่ต้องเรียกว่าทำให้ตกใจและหวาดกลัวกันมากที่สุดคงหนีอาการที่เรียกว่า Blue Screen หรือหากแปลตรงๆก็คือ หน้าจอสีฟ้า นั่นเอง  โดยหน้าจอฟ้าหรือ Blue Screen มักจะแสดงอาการต่อเมื่อคอมพิวเตอร์ของคุณเกิดปัญหาผิดปกติภายในระบบปฏิบัติการ Windows โดยส่วนมากแล้วผู้ใช้จะต้องทำการรีเซ็ตเครื่องใหม่ หากคุณไม่อยากให้คอมพิวเตอร์มีอาการดั่งกล่าวอีกควรใช้วิธีแก้หน้าจอฟ้าหรือ Blue Screen บน Windows ดั่งต่อไปนี้ 1. ตรวจสอบไดรฟ์เวอร์ ให้คลิกขวาที่ My computer เลือก Manage จากนั้นเลือก Device Manager และตรวจสอบให้ว่าตอนนี้มีอุปกรณ์ใดที่ไม่สมบูรณ์หรือยังไม่อัพเดทไดรเวอร์ หมั่นตรวจสอบและแก้ไขไอคอนตกใจให้หมดก่อนการใช้งานต่อไป หากสามารถลงไดรฟ์เวอร์ของทุกตัวใหม่หมดเลยจะดีที่สุด  2. ตั่งค่า System Restore ในบางครั้งหากเกิดข้อผิดพลาดกับระบบ Windows เราไม่จำเป็นต้องทำการติดตั้ง Windows ใหม่ แต่สามารถตั้งค่า Startup and Recovery ด้วยการเพื่อช่ว